วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

รู้จักใช้ รู้จักออม ตอน หากำไรจากบัตรเครดิต



รู้จักใช้ รู้จักออม
ตอน หากำไรจากบัตรเครดิต
บทความนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว
ปัจจุบันคนไทยเริ่มนิยมใช้บัตรเครดิตมากขึ้น และหลายคนก็เป็นหนี้จากบัตรเครดิตมากขึ้นเช่นกัน 
ในความจริงแล้วผู้ที่เหมาะจะใช้บัตรเครดิตคือผู้ที่รู้จักบริหารเงินเป็น
วันนี้เราจะมาอธิบายวิธีการบริหารเงินจากบัตรเครดิตกัน


ต้องรู้จักการบริหารเงิน

การบริหารเงินนั้น เราต้องเริ่มจากจากการบริหารรายจ่ายของเราก่อน 
ซึ่งก็มีสมการง่ายๆที่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวันนั้นคือ
รายได้ เงินออม = ค่าใช้จ่าย

เช่น คุณมีเงินเดือน 15,000 บาท คุณต้องการออมเงิน เดือนละ 5,000 บาท
ดังนั้นสมการคือ  รายได้(15,000) เงินออม(5,000) = ค่าใช้จ่าย(10,000)

สรุป คุณมีวงเงินสำหรับใช้จ่ายเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งแน่นอนว่าบางเดือนคุณอาจจะใช้ไม่ถึง 10,000 บาท 
คุณก็สามารถนำเงินส่วนที่เหลือสะสมไว้ใช้เป็นส่วนของค่าใช้จ่ายเดือนถัดไปหรือจะนำไปลงทุนก็ตาม

เช่น เดือนแรก คุณมีค่าใช้จ่ายเพียง 6,000 บาท ดังนั้นคุณมีเงินเหลือ 4,000 บาท
ถ้าคุณเลือกนำเงินจำนวนดังกล่าวสะสมเพื่อไว้ซื้อขอรอบถัดไป
เดือนที่สองคุณก็จะมีเงินสำหรับใช้จ่ายถึง 10,000 + 4,000 = 14,000 บาท เลยทีเดียว

ส่วนเรื่องการใช้จ่ายจากบัตรเครดิตนั้น
เริ่มจากการเปิดบัตรเครดิตควรเปิดที่กี่ใบ?

จำนวนบัตรที่เหมาะสมคือ 3 ใบ
เช่น
                 วันที่ตัดยอดเงิน                         วันครบกำหนดจ่าย
ใบที่ 1            วันที่  10                                     วันที่ 30
ใบที่ 2            วันที่  20                                     วันที่ 10
ใบที่ 3            วันที่  30                                     วันที่ 20

วันไหนควรใช้บัตรใบไหน
1.ควรดูว่าโปรโมชั่นของบัตรเครดิตใดร่วมรายการสินค้าที่เราจะซื้อ
เพราะส่วนใหญ่นอกจากได้รับส่วนลดเปอร์เซ็นแล้วอาจจะมีโปรอื่นๆก็เป็นได้

2.หากไม่มีบัตรใดร่วมโปรโมชั่น

วันที่  1-10    ให้ใช้บัตรเครดิตใบที่ 3
วันที่ 11-20   ให้ใช้บัตรเครดิตใบที่ 1
วันที่ 21-30   ให้ใช้บัตรเครดิตใบที่ 2

เช่น  ถ้าเราใช้บัตรเครดิตวันที่ 1/06/13(ให้ใช้บัตรเครดิตใบที่ 3)
        จะตัดยอดวันที่ 30/06/13 
        และชำระเงินวันที่ 20/07/13
ดังนั้นถือว่าเงินยังอยู่ที่เรา 50 วัน

ตัวอย่าง กรณีเราซื้อทีวี ราคา 100,000 บาท
ในระยะเวลา 50 วัน เราสามารถนำเงินดังกล่าวไปเพิ่มมูลค่า ได้อย่างไร

ถ้าวิธีธรรมดาและง่ายสุดๆ ก็คือ ฝากธนาคาร
อัตราดอกเบี้ย(TMB แบบฝากไม่ประจำ) 2.75%

*คำนวณโดยประมาณ*
100,000.00
       2,750.00
/ปี

229.17
/เดือน
เงินต้น
7.64
/วัน

381.94
/50วัน

ดังนั้น คุณจะได้เงินจากดอกเบี้ยมา 381.94 บาท
และหากคุณรูดบัตรผ่าน SCB family plus คุณจะได้รับเงินคืน 1% ทุกการใช้จ่าย
คุณก็ได้ส่วนลดอีก 1,000 บาท
สรุป ถ้าคุณใช้บัตรSCB รูดซื้อทีวีวันที่ 1 คุณจะได้เงินคืน 1,000 + 381.94 = 1,381.94 บาท โดยประมาณ
คุณจะซื้อทีวีเพียง 98,618.06 บาท โดยประมาณ


แต่ในความเป็นจริง หากคุณซื้อทีวีราคา 100,000 บาทแล้วนั้น มักจะโปรผ่อน 0%
ถ้าผ่อน 0% ควรผ่อนหากเทียบกับตารางด้านบนเราจะเห็นตัวเลขที่ชัดเจนว่า ถ้า 0%
ทำไมเราถึงควรผ่อน

อัตราดอกเบี้ย(TMB แบบฝากไม่ประจำ) 2.75%
*คำนวณโดยประมาณ*
เดือนที่ 1
 100,000.00
          229.17
เดือนที่ 2
   90,000.00
          206.25
เดือนที่ 3
   80,000.00
          183.33
เดือนที่ 4
   70,000.00
          160.42
เดือนที่ 5
   60,000.00
          137.50
เดือนที่ 6
   50,000.00
          114.58
เดือนที่ 7
   40,000.00
           91.67
เดือนที่ 8
   30,000.00
           68.75
เดือนที่ 9
   20,000.00
           45.83
เดือนที่ 10
   10,000.00
           22.92

 รวม
       1,260.42

ดังนั้น คุณจะได้เงินจากดอกเบี้ยมา 1,260.42 บาท
และหากคุณรูดบัตรผ่าน SCB family plus คุณจะได้รับเงินคืน 1% ทุกการใช้จ่าย
คุณก็ได้ส่วนลดอีก 1,000 บาท
สรุป ถ้าคุณใช้บัตรSCB รูดซื้อทีวีวันที่ 1 คุณจะได้เงินคืน 1,000 + 1,260.42 = 2,260.42 บาท โดยประมาณ
คุณจะซื้อทีวีเพียง 97,739.58 บาท โดยประมาณ

หากคุณผ่อน คุณจะได้เงินเพิ่มขึ้น
2,260.42 - 1,381.94 = 878.48 บาท

นี้เป็นเพียงตัวอย่างง่ายๆ แต่หากคุณนำเงินไปลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นคุณอาจจะได้กำไรสูงขึ้นหรือ ขาดทุนก็เป็นได้
การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาก่อนลงทุน

สรุป วิธีดังกล่าวหากคุณไม่มีระบบระเบียบในการใช้เงินก็ไม่ควรสมัครบัตรเครดิต


sharethis