วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

รีวิว ประสบการณ์ ตม.เกาหลี 2016 โดนเล่นตั้งแต่ สนามบินสุวรรณภูมิเลยยยย



วันนี้มีเรื่องราวอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆฟังกันนะคะ
นั้นคือ....... เรื่องของ ตม.ที่เกาหลี นั้นเองงงง
แน่นอนว่าถ้าใครที่กำลังจะมาเกาหลีครั้งแรกแล้วเข้าไปอ่าน pantip
แนทมั่นใจแน่นอนว่าคุณต้องนอยด์ 555
เพราะมีข่าวร่ำลือหนาหูมากมายเกี่ยวกับเรื่องที่คนไทยติด ตม.
ข่าวนี้ก็ทำให้แนทเครียดอยู่เป็นเดือน 😫
เอาเป็นว่ามาเข้าเรื่องกันเลยนะคะว่าแนทเจออะไรบ้าง
ขอเล่าก่อนว่า
แนทไปกัน 3 คนค่ะ พ่อแม่ลูก และไปกับทัวร์
ผ่านสายการบิน EASTAR JET ถึงสนามบินที่เกาหลีประมาณ 6.00 น. รอบเช้า
พื้นฐาน Passport ของแต่ละคนในทริปนี้ผ่านอะไรมาบ้าง
เริ่มจากแนทนะคะ

1.โตเกียว ญี่ปุ่น
2.โอซาก้า ญี่ปุ่น
3. ฮ่องกง
4. มาเก๊า
5. สิงค์โปร
ถึงจะเคยผ่านต่างประเทศมาบ้างแต่ก็ยังกังวลอยู่เพราะ
เห็นบางคนเคยไป อเมริกา หรือยุโรปแล้วยังโดน 😭
ถัดมาคือคุณพ่อคุณแม่ มีแค่โอซาก้า ญี่ปุ่น
แต่คุณพ่อเคยไป ออสเตรเลีย แต่เป็น passport เล่มเก่า ซึ่งไม่อยู่แล้ว
เบื้องต้นแนทได้ให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมเอกสารไป (ขอไม่พูดถึงนะคะว่ามีอะไรบ้างเพราะไม่ได้ใช้)
เรื่องมันเริ่มจากสนามบินสุวรรณภูมิเลยค่ะ
คือคุณพ่อคุณแม่แนทท่านเป็นคนที่ไม่ค่อยแต่งตัว (จริงๆแนทก็ไม่ค่อยแต่งตัวเหมือนกัน 555 )
คือหลังจากเช็คอินสายการบินเรียบร้อยแล้ว
พอเดินออกมาแนทให้คุณพ่อคุณแม่ยืนรออยู่แถวบริเวณทางออก
เพราะแนทต้องเดินไปหาไกด์ จากนั้นพอเดินกลับมา
ปรากฎว่าเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนคุยกับแม่อยู่
พอเดินเข้าไปถึงผู้ชายคนนั้นก็เดินไปหาผู้หญิงกับผู้ชายที่เพิ่งเช็คอินเสร็จเดินออกมาพอดี
แนทเลยถามคุณแม่ว่า คนนั้นใคร?
แม่เล่าให้ฟังว่า ...
เป็นคนของกรมแรงงาน เขามาถามพ่อว่า
จะไปไหน?
พ่อเลยตอบว่า "เกาหลี"
จากนั้นก็ถามว่า "ทำงานที่ไหน"
พ่อตอบ "เกษียณอายุแล้ว เคยทำที่=รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง=ขอสงวนชื่อนะคะ"
คนนั่นเลยบอกว่า "ขอดูบัตรหน่อย"
คุณแม่เลยพูดขึ้นมาว่า "เกษียณตั้งนานแล้ว บัตรไม่อยู่แล้ว
"จากนั้นคุณแม่เลยแจ้งว่าทำงานที่=หน่วยงานราชการแห่งหนึ่=ขอสงวนชื่อนะคะ
เขาเลยขอดูบัตร คุณแม่
คุณแม่ก็เลยหยิบให้ดู จากนั้นเขาก็ไม่ว่าอะไร แล้วก็คุยเรื่องทั่วไปต่อ จากนั้นแนทก็เดินเข้ามาพอดี
พอแนทได้ยินเรื่องที่คุณแม่เล่า ทำให้กังวลเข้าไปอีกว่า look การแต่งตัวคุณพ่อมีความเสี่ยง 😭😭😭
 (แต่จริงๆค่อนข้างมั่นใจในพวกเอกสารทางการเงินที่คุณพ่อเตรียมไว้ แค่กลัวเรื่องการสื่อสารแค่นั้นเอง)

จบที่สุวรรณภูมิ พอลงเครื่องมาถึงสนามบินอินซอนแล้ว นี้สิของจริง

พอเครื่องลงปุ๊บ แนทพุ่งตัววิ่งเข้าห้องน้ำเลยค่ะ 555
(ปกติห้องน้ำบริเวณ gate ที่เราลงจะสะอาดกว่าห้องน้ำแถว ตม.)
จากนั้นก็เติมแป้ง ทาปากอ่อนๆนิดนึ่ง (ปกติไม่เคย เดินหน้ามึนเข้าตม.ตลอด)
ส่วนผมนั้นไม่เซตอะไร เดี๋ยวทำให้เป๊ะมากจะดูไม่ธรรมชาติ ต้องยุ่งๆนิดนึง
เพราะเพิ่งลงจากเครื่อง (มีความจริงจังในการสร้างภาพลักษณ์มาก 555)
พอออกจากห้องน้ำมากับแม่ ไกด์เดินมาพอดี ไกด์กำลังบอกว่าให้ตามไป
แต่เราบอกว่ารอพ่อก่อนพ่อเข้าห้องน้ำอยู่ จากนั้นพอเจอพ่อก็ให้พ่อถือหมอนรองคอ
(สร้างภาพลักษณ์นักท่องเที่ยว 555)
ส่วนตัวเองก็ชั่งใจว่าจะเอากล้อง dslr มาห้อยดีมั้ย
(เพราะที่อ่านมาช่วงหลังๆ พวกห้อยกล้องโดนหมด)
สุดท้ายตัดสินใจไม่ห้อยเพราะขี้เกียจหยิบ 😂
ระหว่างทางแนทเจอกลุ่มทัวร์ไทยประมาณ 3 กลุ่มรวมตัวกันฟังหัวหน้าไกด์อธิบายการผ่านตม.
วิธีการต่างๆ
แต่แนทไม่เจอไกด์เราบริเวณนั้น แนทเลยเดินไปขึ้นรถไฟข้ามตึกเลย ใช้เวลาไม่นานค่ะ

ในสุดก็มาถึง ตม. แล้ว
ตอนแนทมาคนไม่เยอะค่ะ
ที่ตม.จะมีผู้หญิงคนหนึ่งคอยยืนปล่อยคนให้เข้าไปเข้าแถวแต่ละช่อง  (ซึ่งไม่ได้บังคังว่าต้องต่อช่องไหน)
และผู้ชายอีกคนดูมีอายุแล้วค่อยเดินดูแลอยู่สำหรับคนที่ต่อแถวในแต่ละช่องตม.
แม่แนทยืนคนแรกเข้าไปก่อน แต่เขาปิดตรงแนทพอดีไม่ให้เข้าไปต่อแถว
เลยบอกแม่ว่าต่อไปเลยแถวไหนก็ได้
พอแนทเดินเข้ามาเจอไกด์พอดี ไกด์บอกต่อแถวไหนก็ได้ แถวสั้นๆ
แนทเลยต่อแถวที่ไกด์ยืนอยู่และสั้นว่าแถวแม่
จากนั้นแม่เลยจะย้ายแถวมาอยู่ด้วย
แนทเลยบอกว่าไม่ต้อง (เพราะอ่านมาว่ามีคนย้ายแถวแล้วโดนด่า 555)
ระหว่างรอแนทสังเกตว่า ตม.แถวที่แนทต่อแถวอยู่เป็นผู้หญิง
ส่วนแถวที่แม่ต่อเป็นผู้ชายแนทเลย แนทเลยตัดสินใจมองซ้ายขวาแล้วย้ายแถวทันที 😬😬😬
 (อ่านมาว่าตม.ผู้ชายใจดีกว่า)
พอพ่อเห็นก็จะย้ายตามมาด้วย
แต่จังหวะนั่น ตม.ผู้หญิงที่เป็นคนปล่อยคิวมองอยู่เลยบอกพ่อว่าไม่ต้องย้ายอยู่นั่นแหละ
ระหว่างนั่นความตื่นเต้นถาโถมเข้าใส่
เลยพยายามลดความตื่นเต้นด้วยการชวนแม่คุย นินทาโน้นนี้เรื่อยเปื่อย 555
ระหว่างนั้น ตม.ผู้ชายก็พาผู้หญิง 2 คนที่สวมเสื้อหนาวหนาๆ เขาห้องเย็นต่อหน้าต่อตา
(คือดึงจากแถวที่ยืนต่อคิวเลย)
จากนั้นก็สกิดให้แม่ดู (การเม้าส์นี้เป็นสิ่งที่ทำให้ลดการตื่นเต้นได้ดีเลยนะแนะนำ 555)
ทันใดนั้น....ก็ถึงคิว พ่อ
ผลคือ นางไม่ถามอะไร ปั๊มผ่านไปเลย
พ่อเลยไปยืนรอด้านหลังตม.
ก่อนจะถึงคิวแม่ก็อธิบายว่าต้องถ่ายรูป และใช้นิ้วชี้ 2 นิ้ววางแสกน และชี้ให้ดูคนหน้าเป็นตัวอย่าง
พอถึงคิวนาง ก็ปั๊มผ่านไม่ถามอะไรสักคำ
พอถึงเรา ก็ยืน passport +ใบตม.+ใบศุลกากร (แนทเตรียมแบบนี้ให้ทุกคน) ไปพร้อมกันเลย
ตอนยื่นสบตามครั้งนึง จากนั้น เขาก็ก้มหน้า เราเลยก้มตามมองใบที่บัตรพนง.เขา
แล้วก็มองโน้นนี้เรื่อยเปื่อย (คือมองๆแถวนั้น มองโต๊ะมองป้าย)
แล้วอยู่ดีๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่า Sasitorn พยายามอ่านชื่อเราด้วยโทนเสียงสูง จากนั้นก็้เงยหน้าขึ้นมา
เราเลยพูดนามสกุลเราตอบกลับไป แล้วยิ้มสยามให้หนึ่งที ( พยายามหน้านิ่งๆ แต่ใจเรานี้สั่นไปหมด)
เขาก็ให้แสกนนิ้วถ่ายรูปตาม Step (อย่างที่ทุกคนรู้ เราจะผ่านได้จริงๆก็ต่อเมื่อเขาปั๊มเท่านั้น)
แล้วเขาก็ครุ่นคิดสักแปป จากนั้นค่อยๆบรรจงหยิบตรามาประทับ วินาทีนั้ประหนึ่งดูภาพ
สโลโมชั่น จากนั้นเขาก็คืน passport มา

จบปิ้ง.... เหตุการ์ณที่เหมือนยาวนานนั้นนี้กินเวลาไม่ถึงนาที แต่มันเหมือนนานมากมาย 555

สรุปคือถามว่าตม.นี้บรรยากาศน่ากลัวกว่าที่อื่นมั้ย? ต้องตอบว่าไม่
มันนอยส์เพราะเราเสพข้อมูลเยอะมากกว่า
ความต่างแค่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนโดนพาเข้าห้องเย็นต่อหน้าต่อตา
ส่วนคำแนะนำคือ ควรเตรียมหลักฐานไป(เผื่อไว้ก่อน) และก็ทำตัวปกติเหมือนที่เคยไปที่อื่นแหละ
อย่าเครียด!!! ไม่งั้นเราว่ามันจะออกทางหน้าตาเนี่ยแหละ
ชวนเพื่อนหรือคนที่มาด้วยคุยจะลดความกังวัลได้ในดับหนึ่งเพราะเราตั้วใจมาเที่ยวจริงๆ

สำหรับการเดินทางวันแรก ชุดตามรูปเลยคะ (ในรูปคือเพิ่งออกจาก ตม.ที่เกาหลีมาเลย)



sharethis