วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561

พาแม่เที่ยว Season 2 : รีวิว ท่องเที่ยว ฮอกไกโด ด้วยตัวเอง ตอนที่ 3


จากนั้นเดินต่อมาสักพัก เราก็มาถึง
📍Sapporo Station
💋เราก็รีบเดินไปซื้อ Sapporo-Otaru Welcome Pass ซึ่งเป็นตั๋วรถไฟซัปโปโร-โอตารุไป-กลับ และรถไฟฟ้าใต้ดินของซัปโปโรทั้ง 3 สายได้โดยไม่จํากัด สำหรับ 1 วัน (สามารถใช้วันหลังได้)
ราคา ¥1,700.-
นี้คือสิ่งที่เราแพลนไว้แต่ปรากฎว่า บัตรนี้ยกเลิกไปแล้ว
จึงต้องซื้อตั๋ว Sapporo-Otaru แบบปกติแทน ราคา¥640.-/เทีียว
โดยรถไฟจะมีทั้งหมด 3 แบบ (Rapid 30 นาที, Semi-Rapid 40นาที, Local 50 นาที) ทุกสายมีราคาเท่ากัน
แล้ววันที่ 4 เราค่อยมาซื้อ One day pass ราคา ¥830.- อีกครั้ง






จากนั้นก็มาขึ้นรถที่ชานชาล
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
เราก็มาถึง
📍เมืองโอตารุ (Otaru)
📁โอะตะรุ เป็นเมืองท่าหลักของอ่าว มีอาคารเก่าแก่มากมาย



พอรถไฟมาจอดที่
📍สถานีโอตารุ (JR Otaru)
แล้วเราเดินออกนอกสถานีแล้วเดินไปทางด้านซ้ายจะเจอบันไดแล้วจะเจอ
📍ตลาดปลาซังคะคุ โอตารุ ( sankaku market 三角市場 )
7:00 - 17:00
💋 ตลาดที่นี้เป็นตลาดเล็กๆค่ะ อยู่ใกล้จากสถานีโอตารุ เป็นตรอกเล็กๆ ภายในมีร้านค้ามากมาย รวมถึงร้านอาหารด้วยค่ะ
ส่วนร้านที่เราเลือกทานมีชื่อว่า
📌 TAKEDA SENGYOYEN
💸 ¥3,050.-
🚩 ♥♥♥❣

ร้านจะมีสองห้องติดกัน จะเป็นห้องใหญ่กับห้องเล็ก ห้องเล็กจะเหมือนห้องเก็บของที่เขาเอาโต๊ะมาว่างเสริมให้ เพราะลูกค้าเยอะ
แน่นอน ดวงอย่างพวกเราต้องได้ห้องเล็ก 555
พอเข้าไปในร้านเขาจะเสริฟชาร้อนฟรี นอกจากนั้นยังมีปลาหมึกฝอยใส่ถ้วยมาให้เราทานเล่นระหว่างรออาหารอีกด้วย



ส่วนรายการอาหาร...
เมนูที่เราแนะนำสุดนั้นคือ Set Meal of Arabesque Greenling ราคาเพียง ¥1,100
นอกจากคุณจะได้ลิ้มรสปลาย่างแสนอร่อยแล้ว ในเซ็ตยังมาพร้อมข้าวและเครื่องเคียงอีกด้วย (สลัดอุด้งอร่อยมากกก)
ส่วนปลาดิบนั้นงานดีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะกุ้งหวานมาก ราคาก็ไม่แรงแค่ ¥1,200.-
ถัดมาเป็นแซลมอนย่าง ส่วนตัวเฉยๆ เมนูนี้ไม่ได้พิเศษอะไร ราคา ¥450.-
ปิดท้ายด้วยข้าวญี่ปุ่นถ้วยละ ¥100.- คุณแม่บอกข้าวอร่อยมากกก




เมื่อทานอิ่มจนเต็มที่แล้วเราก็เดินทางไปที่ คลองโอตารุ แม้จะเป็นเวลาแค่เพียงบ่ายสามแล้วฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
(ที่นี้มืดเร็วมากกกกก)



แล้วก็เดินมาต่อกันที่สถานที่ยอดนิยมของเมืองโอตารุ นั้นคือ
📍คลองโอตารุ (Otaru Canal)
เปิด 24 ชั่วโมง
💸 Free
🚩
♥♥♥♥
💋 คลองโอตารุในอดีตเป็นคลังสินค้า รับของจากเรือขนาดใหญ่ที่ถูกลำเลียงมาตามคลองด้วยเรือเล็กๆ ปัจจุบันคลังสินค้าดังกล่าวกลายเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์
คลองถูกถมให้เล็กลงและทำเป็นทางเดินแสนโรแมนติกในยามค่ำคืน
 


เมื่อถ่ายรูปกันเรียบร้อยแล้ว
น้องชายก็อยากเดินไปตรงท่าเรือ
บริเวณนี้ก็มีมุมสวยให้ถ่ายรูปอยู่นะคะ
แต่ก็เป็นจังหวะที่เราเสียเวลามาก เพราะนางจะให้ถ่ายรูปให้ติดคลืนทะเลด้วย🌼🌼🌼 555


 


เมื่อฟ้าเริ่มมืดพวกก็รีบเดินมาที่เส้นถนนสายชอปปิ้ง
📍ซาคาอิมาจิโตริ (Sakaimachi Street)
🚩 ♥♥♥♥

💋ระหว่างทางที่เราพยายามจะเดินไปถนนเส้นนี้ เราก็หลงไปถนนอีกเส้น 555 แต่ก็ทำให้เราเจอร้านขายของฝากขนาดใหญ่ มีบริเวณที่ขายขนมและเครื่องดื่มให้เราหลบลมหนาวภายในร้านอีกด้วย
เมนูแนะนำ คือ ปลาหมึกเสียบไม้ไส้ต่างๆ
พูดกันตามจริงไม่แน่ใจว่าใช่ปลาหมึกมั้ย แต่กลิ่นมันใช่ เหมือนปลาหมึกผสมแป้ง รสชาติอร่อยดี


จากนั้นเราก็เลยเปิด google map เพื่อหาเส้นทางที่ถูกต้อง

ระหว่างทางเราพบว่า ร้านส่วนใหญ่เริ่มทยอยปิดแล้ว แม้จะเป็นเวลาแค่ 5 โมงเย็น แต่ฟ้าก็มึดมากกกก 5555
ร้านที่เราพบว่ายังเปิดอยู่ก็ยังมีอยู่บ้าง
📍 LeTAO ร้านขนมชื่อดัง (เลอ ทา โอะ)
💸 มีหลากหลายราคา
🚩 ♥♥♥♥

💋 ความดีงามของที่นี้ มีขนมให้ชิมฟรี เยอะมากกกกก 555 เราชิมอย่างเดียว แต่มาซื้อที่สนามบิน เพราะอายุขนมค่อนข้างน้อย ถ้ารีบซื้อกลัวจะเสียก่อน
ส่วนราคาก็ถูกกว่าไทยเกือบครึ่ง เช่น Fromage Double ที่นี้ราคา 1,600.- เยน หรือประมาณ 480 บาท ส่วนที่ไทยขาย 890 บาท

หลังจากเดินมาพักเราเจอร้านขายขนมบางอย่าง ที่คนต่อแถวยาวมากกกก
เราก็ไม่พลาดที่จะไปต่อคิวลองซื้อมาทานกัน
แต่ๆๆๆๆ ปรากฎว่ามันไม่อร่อยเลย 555
รสชาติมันเหมือนข้าวทอดชุบซอส คาดว่าน่าจะเรียกว่า เซมเบ้




 เดินมาเรื่อยๆเราก็จะเจอ
📍 พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี Otaru Orgel Emporium
💸 เข้าฟรี
🚩
♥♥♥♥
💋 บริเวณด้านหน้าร้านจะมีนาฬิกาไอน้ำโบราณ (Stream Clock) สไตล์อังกฤษ ซึ่่งปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น (อีกที่คือ Vancouve ) ส่วนภายในก็มีกล่องดนตรีมากมายหลากหลายแบบ และที่สำคัญที่นี้ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำ ภาพยนตร์เรื่อง แฟนเดย์ อีกด้วย


เมื่อสุดทางถนนสายชอปปิ้งซาคาอิมาจิโตริ
เราก็เดินมาถึง
📍สถานีมินามิโอตารุ
เพื่อเดินทางกลับที่พักที่ Sapporo
ใช้เวลาเดินทางประมาณค่อนข้างนาน และทางเดินเป็นเนินเขาอีกทางหาก 555 ใครมาเที่ยวแนะนำให้ ลงสถานี สถานีมินามิโอตารุ แล้วขากลับไปขึ้นที่ สถานีโอตารุดีกว่า แต่ขามาที่เราต้องลงสถานีโอตารุเพราะว่ากลัวจะไปตลาดปลาไม่ทัน

เมื่อถึงสถานีมินามิโอตารุ เราจะเห็นว่ามีรถไฟรอบ 18.03น. เดินทางไปซัปโปโร ความพิเศษของขบวนนี้จะเขียนว่า Rapid หมายถึงรถไฟที่เร็วกว่าสายปกติ เพราะจะจอดสถานีน้อยกว่าสาย local (Rapid 30 นาที, Semi-Rapid 40นาที, Local 50 นาที) ทุกสายมีราคาเท่ากัน โดยขากลับเราสามารถมานั่งรอที่ชานชาลาหมายเลข 2
สักพัก เราก็มาถึง
📍Sapporo Station
และเราจะฝากท้องสำหรับมื้อเย็นกันที่นี้ค่ะ
📍Daimaru Sapporo
💸 ¥ 1,256.-
🚩
♥♥♥♥
💋 ของส่วนใหญ่ที่ Super market พอค่ำๆแล้วจะลดราคา คุณแม่ก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปมะรุมมะตุ้ม แย่งชิงของลดราคา 50 % ให้เรามาทานกันในค่ำคืนนี้


จากนั้นก็ถึงเวลาพักผ่อนแล้วค่ะ
เราก็กลับมาเช็คอินที่พัก
📍APA Hotel Sapporo Susukino-Ekimae, Sapporo
💸 ¥9,380.90 (3คืน/2ห้อง)
(คืนละ 1,563.48/ห้อง/สำหรับ 2 คน)
🚇 Hosuisusukino Station ทางออก 3
🚩 ♥♥♥♥❣ 

💋 ปกติเวลาแนทเลือกโรงแรมที่พัก แนทมักจะเลือกโดยดู 2 ประเด็นหลักคือ มีห้องน้ำในตัว และใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งโรงแรมนี้ตอบโจทย์ทั้งสองอย่าง โดยเฉพาะรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่หน้าโรงแรมเลย 555
แม้ห้องพักที่นี้จะเล็กแต่ก็มีของครบถ้วน
เช่น หมวกคลุมผม ไม้แคะหู ที่โกนหนวด หวี ยางรัดผม ซึ่งเขาจะเติมใหม่ให้ทุกวัน นอกจากนั้น ความพิเศษของที่นี้คือ มีตู้กดน้ำแข็งงงงงง ด้วย 555 คุณแม่ปลื้มมากกก
แค่ที่หักหัวใจครึ่งดวงเพราะ ที่นี้ไม่มี ไมโครเวฟ

สำหรับ Day 2 ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้
พรุ่งนี้เจอกันใหม่ที่ Day 3 นะคะ

...................................................................................................
พาแม่เที่ยว Season 2 : รีวิว ท่องเที่ยว ฮอกไกโด ด้วยตัวเอง ตอนที่

พาแม่เที่ยว Season 2 : รีวิว ท่องเที่ยว ฮอกไกโด ด้วยตัวเอง ตอนที่

พาแม่เที่ยว Season 2 : รีวิว ท่องเที่ยว ฮอกไกโด ด้วยตัวเอง ตอนที่
 
พาแม่เที่ยว Season 2 : รีวิว ท่องเที่ยว ฮอกไกโด ด้วยตัวเอง ตอนที่ 4

พาแม่เที่ยว Season 2 : รีวิว ท่องเที่ยว ฮอกไกโด ด้วยตัวเอง ตอนที่

พาแม่เที่ยว Season 2 : รีวิว ท่องเที่ยว ฮอกไกโด ด้วยตัวเอง ตอนที่

แจกฟรี แพลนเที่ยวฮอกไกโด ซัปโปโร โอตารุ โนโบริเบทสึ ด้วยตัวเอง

sharethis