วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ทริปเที่ยวดานัง เวียดนาม 4วัน 3คืน DAY 1 [Da Nang ; Vietnam]


🔴 DAY 1

สายการบินแอร์เอเซีย เที่ยวบิน FD 634 [AirAsia FD634]

คาเฟ่ซานตร้ามารีน่า [Sơn Trà Marina]

วัดเจ้าแม่กวนอิม (วัดหลินอึ๋ง)  [Chùa Linh Ứng]

ร้านอาหาร Bếp Cuốn Đà Nẵng

ภูเขาหินอ่อน [The Marble Mountains]

โบสถ์สีชมพูสไตล์โกธิค [Đà Nẵng Cathedral]

สวนสาธารณะ APEC Park

สะพานมังกร [Dragon Bridge]

สะพานแห่งความรัก [Love Bridge]

ตลาดกลางคืน เมืองดานัง [Chợ Đêm Sơn Trà]

ที่พัก Vanda Hotel

    สำหรับทริปเวียดนามในครั้งนี้เราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเซีย เที่ยวบิน FD 634 ในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่เป็นวันปีใหม่  ทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่สนามบินดอนเมือง หลังจากเช็คอินเรียบร้อยเราก็เดินทางไปรอบริเวณที่หน้า GATE 2 แต่ระหว่างทางเดินผ่านร้าน Subway เลยแวะใช้สิทธิแลกแซนด์วิชอบร้อนพร้อมเครื่องดื่มฟรี หลังจากนั้นก็เดินมาขึ้นเครื่อง Airbus A320-200 ที่มีที่นั่งแบบ 3-3 โดยใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมง เราก็เดินทางมาถึงสนามบินดานัง

🔴 รีวิว AirAsia FD 634 Airbus A320-200 (Don Mueang - Da Nang) ฉบับเต็ม คลิก


    สนามบินดานังถือได้ว่าเป็นสนามบินที่ค่อนข้างใหม่ สำหรับด่านตรวจคนเข้าเมืองก็ไม่มีคำถามอะไร ผ่านได้อย่างสบาย พอออกมาหน้าสนามบินน้องชายก็ติดต่อรถที่เช่าไว้พร้อมคนขับ (คนขับสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้แต่เราซื้อบริการเสริมไว้ คือให้มีล่ามคอยประสานงานผ่านไลน์กับคนขับ) สำหรับรถที่เราใช้ในทริปนี้ รถค่อนข้างมีขนาดใหญ่และสะอาด แต่อย่างไรก็ตามปัญหาใหญ่คือการสื่อสารที่ค่อนข้างวุ่นวายและซับซ้อน

    หลังจากขึ้นรถเราก็มุ่งหน้าไปที่ Sơn Trà Marina ซึ่งเป็นคาเฟ่ริมทะเล สำหรับคาเฟ่แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกาะสวรรค์ซานโตรินีในประเทศกรีซ ทำให้ร้านมีบรรยากาศสวยงามและเป็นที่ต้อนรับสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติแบบเต็มที่ 

    นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามในการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินที่ดานังแบบพาโนรามา

    โดยรวมกันแล้ว คาเฟ่ซานตร้ามารีน่า (Sơn Trà Marina) เป็นคาเฟ่ริมทะเลที่น่าสนใจสำหรับการมาชมวิวและถ่ายรูปในบรรยากาศที่สวยงามของเมืองดานัง แนะนำให้มาในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อเพลิดเพลินกับการผ่อนคลายและชมวิวที่น่าทึ่งทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน

🔴 รีวิว คาเฟ่ซานตร้ามารีน่า (Sơn Trà Marina) ฉบับเต็ม คลิก


    ต่อจากนั้น เราก็เดินทางมาที่วัดหลินอึ๋ง (Chùa Linh Ứng) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองดานังและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของ Son Tra ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและน่าประทับใจ วัดนี้มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่เป็นที่น่าสนใจอย่างมาก มีขนาดใหญ่และเป็นอันดับที่ 4 ของโลก มีความสูงถึง 67 เมตร และเส้นผ่านศูนย์กลางดอกบัว 35 เมตร ซึ่งเทียบเท่ากับตึก 30 ชั้น

    วัดหลินอึ๋งตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้บริเวณที่จอดรถมีความชัน จึงควรให้ความระมัดระวังในการขับขี่ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่จำหน่ายของราคาไม่สูงมากในโซนที่จอดรถ บริเวณในวัดค่อนข้างใหญ่มีจุดสักการะหลายที่

    การเข้าชมวัดหลินอึ๋งจึงเป็นสถานที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่เมืองดานัง

🔴 รีวิว วัดหลินอึ๋ง (Chùa Linh Ứng) ฉบับเต็ม คลิก


    จากนั้นก็แวะมาทานอาหารที่ ร้าน Bếp Cuốn ณ เมืองดานัง เป็นร้านอาหารที่มีรูปแบบทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ เน้นสไตล์เวียดนามที่ผสมผสานความทันสมัยให้น่าสนใจ ร้านมีบรรยากาศเรียบง่ายและอบอุ่น ด้วยโต๊ะและเก้าอี้ทำจากไม้ ทำให้รู้สึกเหมือนกับทานอาหารที่บ้าน ร้านให้ความสำคัญกับคุณภาพวัตถุดิบที่สดใหม่และอร่อย ในร้านมีเมนูที่ควรลอง เช่น บั๊ญหอย (Bánh hỏi) ที่เสิร์ฟพร้อมหมูย่างเสียบไม้ และ บั๊ญแส่ว (Bánh xèo) ที่มีลักษณะคล้ายกับขนมเบื้องญวน รวมถึงเมนูข้าวผัดสับปะรด ซึ่งมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ โดยรวมแล้วร้านนี้มีความเป็นเอกลักษณ์และความอร่อย ร้านยังคงรักษาความพิเศษของอาหารพื้นเมืองและดัดแปลงเมนูให้ทันสมัยให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าอย่างดีอีกด้วย ร้านนี้เป็นร้านที่เข้าใจและชื่นชอบมากที่สุดในทริป และแนทแนะนำให้ลองทานเมนูบั๊ญหอยและบั๊ญแส่วที่อร่อยมากๆ แม้จะมีข้อเสียเล็กน้อยเกี่ยวกับขนาดโต๊ะที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับขนาดจานอาหารที่ใหญ่ แต่ความอร่อยและความเป็นเอกลักษณ์ของร้านยังคงคงทันสมัยไว้ได้ดีค่ะ

🔴 รีวิว ร้าน Bếp Cuốn ณ เมืองดานัง ฉบับเต็ม คลิก


    เมื่อรับประทานอาหารจนอิ่มท้องกันแล้ว เราก็เดินมากันต่อที่ The Marble Mountains เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีความศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาในเวียดนาม 

หากเดินทางไปที่นี่ควรไม่พลาดสิ่งที่น่าสนใจดังนี้:

        1. วัดลิงอุง (Linh Ung Pagoda) ที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของเขา Water Mountain เป็นสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องไปชม วัดนี้เป็นที่น่าสนใจอย่างมากเนื่องจากมีศิลปะสวยงามและพระประจำวัดขนาดใหญ่

        2. 5 ภูเขาปูนที่สวยงาม (The five Marble Mountains) ซึ่งเป็นจุดเด่นสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ละภูเขามีชื่อที่ตรงกับธาตุ ได้แก่ Kim (โลหะ), Thủy (น้ำ), Mộc (ไม้), Hỏa (ไฟ) และ Thổ (ดิน) นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปสำรวจและชมวิวที่สวยงามของเมืองดานังได้

        3. ถ้ำฮวยเงิก (Huyen Khong Cave) ซึ่งเป็นหนึ่งในถ้ำที่ใหญ่ที่สุดและงดงามที่สุดใน Marble Mountains นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามและบรรยากาศเป็นอย่างใกล้ชิด

        4. ถ้ำอามฟู (Am Phu Cave) ซึ่งตั้งตรงกันข้ามของถ้ำฮวยเงิก สถานที่นี้เป็นที่เชื่อกันว่าแสดงให้เห็นถึงวิถีของความเชื่อของศาสนาพุทธ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจและศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ที่นี่

    นอกจากนี้ยังมีร้านค้าขายรูปปั้นหินอ่อนและของที่ระลึกอื่นๆ ในบริเวณโดยรอบซึ่งเหมาะแก่การซื้อของฝาก อีกทั้งยังมีร้านขายของเครื่องรางเครื่องประดับที่มีราคาไม่สูงมาก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อของฝากกลับบ้าน

🔴 รีวิว The Marble Mountains ฉบับเต็ม คลิก


    ถัดมาเราก็เดินทางมาที่ Đà Nẵng Cathedral (โบสถ์สีชมพูสไตล์โกธิค) โบสถ์มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิกและมีความสูงประมาณ 70 เมตร ซึ่งโดดเด่นด้วยสีชมพูที่สวยงาม โดยมีหอระฆังอันโอ่อ่าที่ประดับด้วยไก่ตัวผู้ ทำให้โบสถ์ชื่อว่า "โบสถ์ไก่ตัวผู้" หรือ "Con Ga" และไก่ถือเป็นตัวนำโชคของโบสถ์นี้ บรรยากาศรอบๆ โบสถ์เงียบสงบและเป็นส่วนตัว 

🔴 รีวิว Đà Nẵng Cathedral (โบสถ์สีชมพูสไตล์โกธิค)  ฉบับเต็ม คลิก


    จากนั้นเราเดินทางมาที่ APEC Park โดยตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำฮัน ใจกลางเมืองดานัง ในสวนสาธารณะนี้มีลานเวทีที่มีซุ้มเหล็กขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้ดูเหมือนว่าวบินอยู่บนพื้นที่เปิดโล่ง ช่วงเวลาที่เราไปเยือน APEC Park เป็นช่วงที่มีกิจกรรมน่ารักและสดใสของเด็กน้อยที่กำลังซ้อมร้องเพลงและเต้นอย่างน่ารัก นอกจากนี้ยังมีผู้คนที่มาเดินเล่นและนั่งพักผ่อนอยู่รอบ ๆ สวนสาธารณะนี้อีกด้วย.

🔴 รีวิว APEC Park  ฉบับเต็ม คลิก


    หลังจากนั้นคนขับก็พาเรามาที่ Love Lock Bridge ที่นี่เป็นจุดชมทิวทัศน์แม่น้ำฮันที่สวยงาม และเป็นจุดที่คู่รักนิยมมาคล้องกุญแจแสดงถึงความรัก นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นปลาคาร์ปที่มีรูปร่างเป็นมังกรที่เป็นสัญลักษณ์ของโชคและความสำเร็จ Love Lock Bridge ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในการถ่ายรูปและชมการแสดงพิเศษของการพ่นไฟและพ่นน้ำของสะพานมังกร

🔴 รีวิว  Love Lock Bridge ฉบับเต็ม คลิก


    ต่อจากนั้นคนขับก็มาส่งเราที่โรงแรม Vanda Hotel ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง Da Nang ใกล้ Dragon Bridge พนักงานต้อนรับเป็นกันเอง ห้องพักกว้างขวาง อาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ที่โรงแรมมีคุณภาพและให้เลือกหลากหลาย และตลาดกลางคืนอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม (สามารถเดินข้ามสะพานไปได้)

🔴 รีวิว โรงแรม Vanda Hotel  ฉบับเต็ม คลิก


    หลักจากเก็บกระเป๋าเดินทางที่ห้องพักเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินเท้ามาที่ Cầu Rồng (Dragon Bridge) สะพานมังกรเป็นสะพานข้ามแม่น้ำฮัน มีความยาว 666 เมตร และกว้างถึง 37.5 เมตร มีระบบไฟ LED ทั้งหมด 15,000 ดวง โดยมีมูลค่าใกล้เคียง 1.5 ล้านล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 88 ล้านเหรียญสหรัฐ) โครงการนี้ได้มีถนนสำหรับยานพาหนะทั้งหมด 6 เลน และถนนสำหรับคนเดินอีก 2 เลน เพื่อให้คนที่มาใช้สะพานสามารถข้ามแม่น้ำฮันได้อย่างสะดวกสบาย

    การแสดงพ่นไฟและพ่นน้ำของสะพานมังกรถูกจัดขึ้นในเวลา 21:00 น. ของทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ควรมายืนรอชมตรงบริเวณ Love Lock Bridge แต่ควรมายืนรอล่วงหน้า หากมาช้าอาจจะไม่สามารถเดินเข้าไปด้านในได้เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมาก แต่สามารถชมการแสดงได้ที่ลานด้านนอกของสะพานเช่นกัน

🔴 รีวิว Cầu Rồng (Dragon Bridge) สะพานมังกร  ฉบับเต็ม คลิก


    แต่ระหว่างการรอชมการการแสดงพ่นไฟและพ่นน้ำของสะพานมังกร เราก็แวะมาเดินเล่นรอกันที่ Chợ Đêm Sơn Trà (Son Tra Night Market) ตลาดกลางคืนที่มีเอกลักษณ์ของเมืองดานัง ตลาดนี้มีร้านค้ามากมายที่ขายสินค้าหลากหลายรูปแบบ เช่น ศิลปะประเภทต่างๆ ของที่ระลึก ของใช้ทั่วไป สินค้าแฟชั่น และอื่นๆ รวมถึงร้านอาหารที่มีจำนวนมาก เฉพาะอย่างยิ่งร้านขายอาหารทะเลสดๆ ที่บริการย่างหรือต้มยำให้ฟรี นอกจากนี้ยังมีอาหารอื่นๆ เช่น พิซซ่าเวียดนาม อาหารที่ใช้เนื้อสดเสียบไม้ย่าง และอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกชิม

    สิ่งที่น่าสนใจของตลาดกลางคืน Son Tra คือบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองดานังในยามค่ำคืน รวมถึงเวทีแสดงดนตรีที่คล้ายๆ ลานเบียร์ให้ความบันเทิงในช่วงเวลาเย็นๆ ตลาดนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนท้องถิ่นที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศการช็อปปิ้งและพักผ่อนในยามค่ำคืนของเมืองดานัง

🔴 รีวิว Chợ Đêm Sơn Trà (Son Tra Night Market)  ฉบับเต็ม คลิก

 














 
รถตู้ที่เรานั่งในทริปนี้
 
 


 
..
.


sharethis